ข่าวทั่วไป NEWS

วันที่ 20 กรกฎาคม /ถุๅ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ HANSUNG CHIANGMAI โดยระบุข้อความว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เรือเซวอลล่มเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยค่ะ หากน้องๆ ได้กลับบ้านมาหาพ่อแม่อย่างน้องๆ ทีมหมูป่าคงจะดี 무사히(มูซาฮี) - อย่างปลอดภัย 구하다(คูฮาดา) - ช่วยชีวิต 태국 사람(แทกุก ซารัม) - คนไทย 부럽다(พูร็อบตา) - อิจฉา #ส่งหมูป่ากลับบ้าน



ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่เกาหลีใต้ ณ ศาลกลางประจำเขต ญาติและผู้ปกครองของเด็กๆที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือเซวอลโฮอับปางลงเมื่อ 4 ปีก่อน ได้ออกมรวมตัวกัน โดยคำตัดสินศาลสั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเรือเซวอลโฮอับปาง ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชย 200 ล้านวอนต่อผู้เสียชีวิต 1 ราย และสมาชิกในครอบครัวทุกรายจะได้รับเงินชดเชยเพิ่มเติมรายละ 5-80 ล้านวอน

คลิปดังกล่าวเป็นคลิปขณะที่นักข่าวได้สัมภาษณ์นายยูคยองกึน หนึ่งในครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเรือเซวอลโฮล่ม ว่า "ขณะดูขั้นตอนการช่วยเด็กได้อย่างปลอดภัยที่ประเทศไทย คงเกิดความคิดอะไรหลายอย่างเลยใช่ไหมคะ"

ด้านยูคยองกึน กล่าวทั้งน้ำตาว่า "ผมคงพูดคำอื่นไม่ได้ นอกจากคิดว่าอยากเป็นคนไทยครับ แค่ เป็นครั้งแรกที่ผมอิจฉาคนไทย และมันคงจะเป็นแบบนั้นตลอดไปครับ"



เมื่อได้ชมคลิปนี้แล้ว ทำให้ทีมงานน้ำตาซึมเลยทีเดียวคะว่าเราโชคดีแค่ไหน ที่เกิดมาเป็นไทย อย่างไรก็ตาม ทีมงานสยามนิวส์ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

คลิป

คลิปจาก ข่าวดัง เฟสบุ๊ค / HANSUNG CHIANGMAI

คลิปแบบมีซับไทย

คลิปจาก ข่าวดัง เฟสบุ๊ค
CR:https://www.siamnews.com/view-20549.html

ต้องบอกเลยว่าเป็นข่าวดีที่ทั่วโลกรอคอยวันนี้มานาน สำหรับภารกิจช่วยเหลือ 13 คนทีมหมูป่า ที่ก่อนหน้านี้ 23 มิถุนายน ได้เดินเข้าไปในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ก่อนหายเข้าไปเกือบ 17 วัน ล่าสุดหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ก็ได้ช่วยเหลือทั้ง 13 คนออกมาได้สำเร็จ ต่อมาได้ส่งไปพักฟื้นตัวใกล้ชิดหมอ ล่าสุดออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แข็งแรงทุกคนทั้งร่างกายและจิตใจ



กลับบ้านแล้ว

ล่าสุดหลังออกจากโรงพยาบาล ชาวต่างชาติยังน้ำตาคลอไปพร้อมกับเหล่าเด็กๆและโค้ชเอก กล่าวขอบคุณ คุณหมอ พยาบาลและพี่ๆที่คอยดูแล ประทับใจทีมหมูป่ามีความสุภาพนอบน้อม และเคารพ หลายคนแสดงความเห็น อยากให้เด็กๆประเทศของตัวเองเป็นแบบนี้บ้าง และอยากให้โลกเอาไทยเป็นแบบอย่าง



ไหว้



ลา ออกจากโรงบาล




ชื่นชม

คลิป

ขอบคุณที่มา The Independent
CR:https://www.siamvariety.com/view-31330.html

ต้องบอกเลยว่าเป็นข่าวดีที่ทั่วโลกรอคอยวันนี้มานาน สำหรับภารกิจช่วยเหลือ 13 คนทีมหมูป่า ที่ก่อนหน้านี้ 23 มิถุนายน ได้เดินเข้าไปในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ก่อนหายเข้าไปเกือบ 17 วัน ล่าสุดหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ก็ได้ช่วยเหลือทั้ง 13 คนออกมาได้สำเร็จ ต่อมาได้ส่งไปพักฟื้นตัวใกล้ชิดหมอ ล่าสุดออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แข็งแรงทุกคนทั้งร่างกายและจิตใจ

ล่าสุดวันที่ 18 ก.ค. รายการเดินหน้าประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าว "ส่งน้องๆทีมหมูป่ากลับบ้าน" โดยจัดที่ห้องประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พิธีกรที่รับหน้าที่สัมภาษณ์น้องทีมหมูป่าคือ คุณสุทธิชัย หยุ่น และคุณกัญญ์ญาภัฏฐ์ ภาธรสืบนุกูล



แถลงข่าว

ล่าสุดหนึ่งในหน่วยซีลที่เข้าไปอยู่กับน้องๆชื่อ "พี่ใบเตย" (นามสมมุติ) ได้เปิดเผยถึงนาทีเข้าไปหาน้องๆ โดยกล่าวว่า อันดับแรก ผบ.หน่วยซีลเผยถ้าไม่เจอเด็กห้ามกลับเด็ดขาด ซึ่งในการเข้าไปในถ้ำนั้นยากลำบากมาก และตนเองไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคไป ทำให้ศีรษะโดนหินย้อยทิ่มแทบทั้งตลอดทาง พอไปถึงอันดับแรกได้ทดสอบกำลังใจ โดยถามว่า "สู้มั้ย!" หลังจากนั้นขึ้นไปก็ 18+ เนื่องจากในเสื้อจะมีพาวเวอร์เจล และฟรอย ยา ไฟฉาย ถ่านทั้งหมด จากนั้นไดทำการแจกจ่ายเด็กๆ แต่ไม่พอเนื่องจากพื้นเป็นโคลนจึงจำเป็นต้องปูพื้นด้วย จึงสละของตัวเองให้น้องๆจะเหลือเพียงเศษฟรอยจึงเอามาพันตัวจนกลายเป็นชุดเกาะอก ข้างล่างก็ทำคล้ายกระโปรง จึงได้ฉายาว่าใบเตย นั่นเอง และทำให้ตลอดเวลาที่อยู่กับเด็กๆนั้นเรียกเสียงหัวเราะให้เด็กๆอีกด้วย



นอกจากนี้หนึ่งในน้องทีมหมูป่ายังได้เปิดเผยความรู้สึกถึงพี่ใบเตยอีกด้วยว่า "มีความรู้สึกเหมือนพ่อ เพราะพี่ใบเตยเรียกลูกตลอด"

ชมคลิป

คลิปเต็ม

ขอบคุณที่มา เดินหน้าประเทศไทย / ข่าวช่อง 8
CR:https://www.siamvariety.com/view-31314.html

ผู้ใช้เฟซบุ๊ค โอโปร์ นพรัตร ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เป็นคลิปที่หนุ่มๆ แก๊งตกปลาเนี่ย ออกทริปกัน แล้วไปเจอกับเจ้าปลาหมอทะเลยักษ์ ทำให้คนที่ดูคลิปเนี่ย ลุ้นตามกันสุดๆ ก็ปลาหมอทะเลตัวนี้ ตัวใหญ่กว่าคนซะอีก ใช้กำลังคนเย้อปลาขึ้นเรือถึง 5 คนกันเลยทีเดียว ปลาตัวใหญ่แรงมันยิ่งเยอะ ใช้เวลาเย้กันนานพอสมควร ไปชมภาพและคลิปกันเลยครับ





คลิป

ขอบคุณ FB: โอโปร์ นพรัตน์
CR:https://www.siamvariety.com/view-31312.html

จากกรณีเด็กๆทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต่างช่วยกันพาตัวเด็กๆออกมาได้สำเร็จ เเต่ก็ได้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ขึ้นระหว่างการช่วยเหลือ จ่าเอกสมาน กุนัน ได้จากไปขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาอย่างสมเกียรติฮีโร่ที่จ.ร้อยเอ็ด

ซึ่งล่าสุด "จอย ศิริลักษณ์" ได้โพสต์ภาพฟาร์มไก่งวงของพี่เเซมชื่อฟาร์ม "ปุ้มปุ้ยฟาร์มไก่งวง" ติดทุ่งนาดูธรรมชาติ มีไก่งวงมีหลายตัว เเละใกล้กันก็มีเปลที่นอนเป่าขลุ่ยที่ประจำของพี่เเซม ยิ่งดูยิ่งคิดถึง ฟาร์มซึ่งมีความเป็นธรรมชาติมากถ้าพี่เเซมอยู่คงต้องสนุกมากเเน่ๆ

ภาพ



ฟาร์มพี่แซม



จอย ศิริลักษณ์

คลิป

ขอบคุณ joysirilak
CR:https://www.siamnews.com/view-20473.html

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ น.ต.สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม อดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม กองทัพเรือ (ซีล) วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง ที่สละชีพในภารกิจอาสาสมัครดำน้ำช่วยเหลือนักฟุตบอลและโค้ช 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย โดยพบว่ามีผู้ไปร่วมอาลัยและส่ง จ่าแซม ขึ้นสู่สวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย รวมทั้งขอจดจำคุณความดีของวีรบุรุษแห่งถ้ำหลวงคนนี้ไว้ในใจ



ทางด้านภรรยาของจ่าแซม ได้โพสต์ความคิดถึงสุดหัวใจผ่านอินสตาแกรม บอกเล่าจากหัวใจผ่านตัวอักษรหลายครั้ง คล้ายกับไม่อยากเชื่อว่าคู่ชีวิตที่รักสุดหัวใจได้จากไปแล้วจริงๆ ขณะที่ผู้พบเห็นโพสต์ก็ต่างเข้ามาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจเธอเป็นจำนวนมาก.




ขณะเดียวกันนายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติและคณะเดินทางมาที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเพื่อหารือกับนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงรายเรื่องกำหนดพื้นที่สร้างอนุสาวรีย์ให้กับ “จ่าแซม” น.ต.สมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง พร้อมเดินไปดูพื้นที่บริเวณลานหน้าถ้ำหลวงที่จะใช้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของจ่าแซมโดยนายเฉลิมชัย

กล่าวว่า จุดนี้เหมาะสมที่สุดส่วนอนุสาวรีย์จะสร้างขนาดใหญ่ 2 เท่าคนจริงวางไว้บนโขดหินเหมือนถ้ำ ลักษณะของอนุสาวรีย์จ่าแซมจะสวมชุดนักดำน้ำและกำลังทำท่าเดินไปข้างหน้า



“รอบๆขาจะมีรูปปั้นหมูป่า 13 ตัวและน้ำล้อมรอบตั้งอยู่บนเนินกลางเกาะ ส่วนสีรูปปั้นจะออกสีน้ำตาล ด้านหลังของอนุสาวรีย์จะสร้างศาลาไม้ เป็นห้องโถงโล่ง ผนังใช้ที่เก็บรูปของศิลปินต่างๆที่ได้วาดรูปเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเด็กทั้ง 13 คน สำหรับพิพิธภัณฑ์จะสร้างที่หน้าอาคารอำนวยการของวนอุทยานฯเพื่อรวบรวมอุปกรณ์การช่วยเหลือและรูปภาพต่างๆไว้ในพิพิธภัณฑ์นี้พร้อมเรื่องราวต่างๆของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” ศิลปินแห่งชาติกล่าว


 คลิปจาก ข่าวดัง เฟซบุ๊ค
CR:https://www.siamnews.com/view-20472.html

วันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า เวลา 14.13 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากประชาชนมีบุคคลพยายามใช้ผ้าผูกคอหวังหมดลมหายใจบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองคง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่รื่นจิตอาสา กู้ชีพ-กู้ภัย ลูกข่ายโรงพยาบาลคง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นการเร่งด่วน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 2 ตลาดสดเทศบาลเมืองคงพบนายอิมรอน อับดุลญะลีล ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 77/3 หมู่ที่ 15 ตำบลสีสุก อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพลเมืองดีทำการช่วยเหลือนำลงมาพร้อมทั้งสอบถามถึงที่ไปที่มาเหตุใดถึงได้มาผูกคอตายตรงบริเวณนี้ แต่นายอิมรอน พูดจาสับสนวกวนบอกเพียงแต่จะกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานีแล้วไม่มีเงินค่ารถ



จากการสอบถามป้าสงัด ทินราช แม่ค้าขายเสื้อผ้าบริเวณดังกล่าวผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ได้สังเกตเห็นชายคนดังกล่าวได้เดินไปเดินมาบริเวณชั้น 2 ของตลาดมาสักพักแล้ว ชายคนดังกล่าวก็ได้เข้ามาสอบถามว่าถ้าจะผูกคอจะบาปไหม ตนเองจึงได้เตือนไปว่าบาปอย่าทำเลย แต่เมื่อคล้อยหลังได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงแม่ค้าตะโกนมาจากบันไดตลาดอีกฝากว่ามีคนผูกคอจึงได้วิ่งมาดูพร้อมๆกับตระโกนให้สามล้อรับจ้างที่อยู่หน้าตลาดมาช่วย จึงสามารถช่วยลงมาได้ทันพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน้าแปลกที่ชายคนนี้เลือกไปผูกคอบริเวณนั้นเนื่องจากเป็นทางขึ้นลงตลาดมีคนเข้าออกพลุกพล่านตลอดเวลา

และจากการสอบถามนายราชันย์ เจ้าหน้าที่รื่นจิตอาสา กู้ชีพ-กู้ภัย ลูกข่ายโรงพยาบาลคง ที่เข้าไปช่วยระงับเหตุเมื่อนำผู้ที่พยายามผูกคอฆ่าตัวมาสงบสติอารมณ์พร้อมทั้งลงรูปภาพการปฏิบัติงานในโปรแกรมไลน์ปรากฏว่ามีผู้เคยเห็นบุคคลดังกล่าวกระทำการในลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา โดยจะแกล้ง เพื่อให้มีคนมาช่วยเหลือสงสาร

โดยล่าสุดเท่าที่ทราบจากมีผู้ใช้บัญชีเฟสบุคได้โพสเตือนภัยว่าเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคมที่ผ่านมาได้กระทำการพยายามผูกคอที่ตลาดแม่สมบูรณ์จอหอมีพ่อค้าแม่ค้าสงสารช่วยกันเรี่ยไรเงินค่ารถได้จำนวน 1700 บาทและนำพาตัวมาส่งที่สถานีขนส่งเพื่อให้ขึ้นรถกลับบ้าน วันที่ 10 กระทำการที่ตลาดอำเภอครบุรีและวันที่ 12 กระทำการที่วัดม่วง อำเภอเมือง



เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความกล่าวโทษ แต่ก็ได้มีการบอกกล่าวตักเตือนให้เลิกพฤติกรรมที่กระทำอยู่พร้อมทั้งประสานศูนย์พักพิงผู้ยากไร้จังหวัดนครราชสีมาให้รอรับที่สถานีรถไฟบ้านเกาะนำไปดูแลและส่งกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานีต่อไป โดยทางกู้ภัยจะทำการส่งกลับทางรถไฟโดยมีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟเป็นผู้ควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าชายคนดังกล่าวจะไม่แอบหนีไปก่อเรื่องที่ไหนอีก

คลิป

เรียบเรียงโดย อนุสรณ์  นาคขำ ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.นครราชสีมา
CR:https://www.siamnews.com/view-20470.html