ชีวิตสุดเวทนา ด.ญ. ม.1" เขียนจม.วอนช่วยเหลือฐานะยากจนมาก บ้านไกล้พัง น้ำท่วมตลอดปี เปิดอ่านถึงกับน้ำตาซึม

(30 พ.ค.) ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ ...


(30 พ.ค.) ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ 3 ต.ทางพน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช  มีสมาชิกในครอบครัว 5 คน อาศัยรวมกันอยู่ในบ้านยกสูงไม้ยกสูงหลังเล็ก ๆ ที่อยู่ในสภาพเก่าและชำรุดทรุดโทรมอย่างหลัก จนกระเบื้องมุงหลังคาแตกเป็นจุด ๆ ฝาบ้านทำด้วยไม้กระดาษก็เปื่อยผุพังอย่างหนัก จนแทบจะพูดไม่ได้ว่าบ้านหรือกระท่อมหลังดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ แต่น่าจะเป็นเพียงเพิกพักชั่วคราวปลายนาไร่เสียมากกว่า เพราะไม่สามารถกันแดด ลมหรือฝนได้เลยโดยเฉพาะจะโดนน้ำท่วมเกือบตลอดทั้งปี  เมื่อฝนตกน้ำฝนรั่วและสาดกระเซ็นเข้ามาในบ้านโดยคนในบ้านต้องยอมทนนอนเปียกฝนอย่างน่าเวทนาสงสารยิ่งนัก

 โดยเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2560 นายนิกรณ์ ผุดวัฒน์  ครูประจำชั้นโรงเรียนบ้านกลอง หมู่ 5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมตอนเรียนชั้น ป.1 –ป.6 ได้ถ่ายสภาพของบ้านพร้อมทั้งจดหมายขอความช่วยเหลือของ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร อายุ 13 ปีบุตรสาวคนโต ที่บรรจงเขียนจดหมายเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญและมีอุปการะคุณ และนำไปโพสต์เผยแพร่ในเพซบุ๊ก จนได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมมากนัก จึงขอให้ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวอย่างเร่งด่วนด้วย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในปัจจุบันของ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร เพิ่งเข้าเรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร หมู่ 2 ต.ทางพูน  อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนน้อง 2 คน คือ ด.ช.กฤษณพงศ์ เหลี่ยมไตร อายุ 10 ปี เรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านกลอง หมู่ 5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช และ ด.ช.จักรพงศ์ เหลี่ยมไตร เหลี่ยมไตร อายุ 5 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนเดียวกันกับ ด.ช.กฤษณพงศ์  ระยะทางจากบ้านไปโรงเนียน 4.3 กม.โดย ด.ช.กฤษณพงศ์  จะปั่นรถจักรยานสองล้อให้ ด.ช.จักรพงศ์ น้องชาย นี่งซ้อนท้ายไปโรงเรียน ในขณะที่ ด.ญ.ปิยะพร พี่สาวคนโตที่เพิ่งเข้าเรียน ม. 1 โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร ทางนายสุนทร เหลี่ยมไตร จะขับรถ จยย.คันเก่า ๆไปส่งและรับที่โรงเรียน
สำหรับจดหมายที่ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร เขียนของความช่วยเหลือซึ่งเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของนายนิกรณ์ ผุดวัฒน์ คนที่อ่านต่างสะเทือนใจไปตาม ๆ กัน มีใจความว่า “ ที่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ 3 ต.ทางพน  อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช  เรียน ผู้มีอุปการคุณที่เคารพ ดิฉันชื่อ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร บิดาชื่อนายสุนทร เหลี่ยมไตร  มารดาชื่อ น.ส.จรรยา จิโสะ อยู่บ้านเลขที่ 649/1 หมู่ 3 ต.ทางพน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช  ปัจจุบันกำลังเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร  มีน้องจำนวน 2 คน คนที่ 1 ชื่อ คือ ด.ช.กฤษณพงศ์ เหลี่ยมไตร เรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านกลอง และ ด.ช.จักรพงศ์ เหลี่ยมไตร เหลี่ยมไตร เรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนบ้านกลอง  บ้านหนูอยู่ในที่ราบลุ่มน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้น้ำท่วมเกือบทั้งปี เวลาเดินทางไปโรงเรียนก็ลำบากต้องใช้เรือด้วยและต้องต่อรถไปอีก บางครั้งก็ไปไม่ได้บางวันก็ไปสาย ฐานะทางบ้านยากจนมาก  ค่าใช้จ่ายในครอบครัวพ่อเป็นคนหามาโดยการหาปลาขายได้คืนละไม่กี่บาทไม่ค่อยพอกับค่าใช้จ่ายรายวัน
“บ้านที่หนูอาศัยอยู่ก็ใกล้จะพังแล้วเพราะน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทำให้บ้านผุพังและเมื่อเวลาฝนตกลมก็มาแรงมาก ๆ ทำให้กระเบื้องมุงหลังคาหล่นลงมาทีละแผ่นสองแผ่น เมื่อกระเบื้องมุงหลังคาหล่นลงมาทำให้ไม้ผุเมื่อฝนตกน้ำก็จะสาดเข้าบ้านและเวลาน้ำท่วมครอบครัวหนูอยู่กันอย่างลำบาก ปีนี้น้ำท่วมบนบ้าน 1 เมตร หนูเลยต้องต่อรานขึ้นไปอีกจึงทำให้สภาพบ้านหนูทรุดโทรม การเดินทางไปกลับโรงเรียนน้องของหนูไปกลับด้วยรถจักรยานน้องของหนูเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนระยะทาง 4.3 กม.ส่วนหนูผู้ปกครองไปส่งกับมอเตอร์ไซด์ อยากให้ผู้มีอุปการคุณช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยและยานพาหนะ ขอขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณที่ช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาและจักรยาน  ด้วยความเคารพอย่างสูง “ ลงชื่อ ด.ญ.ปิยะพร เหลี่ยมไตร


ทางด้านนายไพรัตน์  ทับชุม นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวทางโซเชี่ยลตนพร้อมด้วยปลัดป้องกัน อ.เฉลิมพระเกียรติ และ ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลทางพูน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ทางพูน ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านของ ด.ญ.ปิยะพร พบนายสุนทร และ น.ส.จรรยา ภรรยา อยู่ที่บ้านส่วนลูก ๆ ยังไม่กลับจากโรงเรียน สภาพบ้านที่อาศัยเป็นบ้านไม้ยกสูง ขนาด 3×6 เมตร สภาพเก่าทรุดโทรมมาก เนื่องจากปลูกสร้างมาหลายปีแล้ว หลังคาผุพัง ฝาบ้านเก่าชำรุดและต้องการความช่วยเหลือ ให้ภาครัฐช่วยซ่อมแซมบ้านให้ พร้อมบ้านให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำ ส่วนการประกอบอาชีพหารายได้นายสุนทร มีอาชีพหาปลาขายมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวไปวัน ๆ


จากการหารือมีข้อสรุปในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ครอบครัวนายสุนทร โดยเทศบาลตำบลทางพูนจะช่วยเหลือในส่วนของกระเบื้องมุงหลังคาทั้งหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 จะสนับสนุนไม้ในการสร้างบ้าน โดยไม้บ้านเก่าของนายสุนทร  ยังใช้ได้บางส่วน จึงต้องจัดหาเพิ่มเติมบางส่วน ส่วนอำเภอเฉลิมพระเกียรติจะสนับสนุนเสาปูน โดยนายสุนทร เจ้าของบ้านจะร่วมกับญาติ ๆ ดำเนินการสร้างเองเนื่องจากมีญาติเป็นช่างก่อสร้างที่พร้อมจะช่วยเหลือก่อสร้างให้ ซึ่งจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.2560 นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นายอนันต์ แดงเรือง ผอ.โรงเรียนทางพูนวิทยาคาร พร้อมคณะครู และ เทศบาลตำรวจทางพูน ได้นำสิ่งของไปมอบบรรเทาทุกข์ให้กับครอบครัวของ ด.ญ.ปิยะพร และจะหาทางในการช่วยเหลือครอบครัวนี้ต่อไป สำหรับ ด.ญ.ปิยะพร เป็นเด็กเรียนร้อย ขยันเรียน คาดว่าจะมีผลการเรียนที่ดี สำหรับผู้ใจบุญที่จะช่วยเหลือครอบครัวนี้ติดต่อศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร. 082-3333139 และ 081-6761299.  ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.

Cr:http://www.siamdrama.com/view-8181.html

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images