น้ำตาแม่ไหลริน!! ก่อนแม่เสียชีวิต ตัดสินใจไปหาลูกสาวทั้ง 3 แต่ต้องร่ำไห้เมื่อเจอสิ่งที่ลูกทำกับเธอ!!

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า.. ตอนเรายังเด็กๆ ที่หมู่บ้านมีหญิงม่า...


เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า.. ตอนเรายังเด็กๆ ที่หมู่บ้านมีหญิงม่ายคนหนึ่ง ชีวิตแกลำบากมาก สามีตายจากไปตั้งแต่แกยังสาว หลายสิบปีมานี้ ไม่มีใครจำชื่อแกได้ ต่างเรียกแกว่าสะใภ้หวัง

แกว่าถ้ามีลูกชายแกก็คงจะไม่ลำบากแบบนี้ แต่ชาตินี้แกไม่มีบุญมีลูกอยู่สามคนก็เป็นลูกสาวหมด เพื่อลูกแกกัดฟันทำงานเลี้ยงดู จนลูกสาวทั้งสามเติบโตแต่งงานออกไปกันหมด ตอนที่ลูกสาวคนสุดท้องแต่งงานแกก็แก่ไปมากใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย ผมขาวโพลนทั้งหัว เดินเหินก็ไม่สะดวก หน้าหนาวปีนี้ แกรู้สึกว่าแค่เดินก็เหนื่อยแล้ว อย่าว่าแต่ทำอาหารเลย แกก็เลยคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี สะใภ้หวังแกเคยชินกับการพึ่งพาตัวเอง ยังไงแกก็ไม่ยอมไปเป็นภาระของลูกเด็ดขาด

แกตัดสินใจแล้วว่าจะอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวต่อไป แต่มีอีกเรื่องที่แกยังคาใจ แกมีปิ่นทองปักผมที่แกรักมากอยู่หนึ่งอัน ก่อนแกตายจากไป แกไม่ต้องการอะไรจากลูก แค่อยากฝากสมบัติเพียงชิ้นเดียวของแกไว้กับลูกสาวที่กตัญญูที่สุด ทำอย่างนั้นแกถึงจะนอนตายตาหลับ แต่ลูกสาวคนไหนกันล่ะ แกเองก็ยังตอบไม่ได้  ลูกสาวสามคนแต่งงานไปแล้วก็แทบจะขาดการติดต่อ นานๆ ถึงจะกลับมาเยี่ยมแกที แต่โชคดีที่ลูกทั้งสามไม่ได้ไปอยู่ไกล แกก็เลยตัดสินใจไปหาพวกเขา

ช้าตรู่วันหนึ่ง แกเริ่มต้นด้วยการไปเยี่ยม "อาจวน" ลูกสาวคนโต สามีของลูกสาวคนนี้ฐานะค่อนข้างดีในหมู่บ้าน พอเห็นแม่มาหา เธอก็ทอดถั่วลิสงให้แม่กินกับผักดอง หญิงชราบอกว่าฟันแกไม่ค่อยดี ร่วงไปเกือบหมดปากแล้ว พอออกจากบ้านมาก็เจอหลานชาย หลานชายบอกว่า “คุณยายไปกินข้าวบ้านผมมั้ย แม่บอกว่าวันนี้จะต้มขาหมู”

“ยายกินแล้วลูก หนูกลับไปกินเถอะ” พูดจบแกก็รู้สึกหดหู่ในใจน้ำตาคลอ ต่อมาแกก็เดินทางต่อไปยังบ้าน "อาอิง" ลูกสาวคนรอง สามีของเธอขับรถบรรทุก ได้เงินไม่น้อย ฐานะไม่เลว เมื่อเห็นแม่มาหา เธอก็ทำท่าไม่ค่อยดีใจ เอาผัดถั่วงอกที่กินเหลือ กับหมั่นโถวแห้งๆ และน้ำอุ่นให้แม่กิน

หญิงชรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขอทาน แต่ก็ไม่พูดอะไร พยายามกินลงไปพร้อมกลืนน้ำตา อาอิงพูดกับแกว่า “แม่มาซะบ่ายแล้ว รีบๆ กลับบ้านไปก่อนจะมืดดีกว่า เดี๋ยวพ่อของเด็กๆ กลับมาฉันจะยิ่งยุ่ง” หญิงชราพยักหน้า มองเห็นพระอาทิตย์สาดแสงแรงกล้า แล้วก็เดินออกจากบ้านมา รู้สึกเศร้าใจที่ลูกเป็นแบบนี้ เดินจนฟ้าเริ่มมืด แกก็มาถึงบ้านลูกสาวคนสุดท้อง "อาซิ่ว" เธอลำบากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับพี่ๆ ฐานะของสามีไม่ดีนัก แต่งเข้าบ้านเขาก็ยังต้องทำงานงกๆ

เมื่อเห็นแม่มาหาที่บ้าน แกรินน้ำให้ดื่มเสร็จ ก็รีบออกจากบ้านไป หญิงชรารู้สึกเสียใจ ไม่คิดว่าลูกจะทำกับแกแบบนี้ นั่งได้สักพักแกก็ลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากบ้าน แล้วลูกสาวคนเล็กก็หอบเนื้อหมูกับกุยช่าย ยิ้มร่าเดินมาหาแก “แม่อย่าเพิ่งกลับนะ วันนี้เรามาทำเกี๊ยวกินกัน!”

ในสมัยนั้น ถ้าดูจากฐานะของลูกสาวคนนี้แล้ว น่าจะมีโอกาสได้กินเนื้อหมูก็แค่ตอนวันตรุษจีน ปกติกินแค่ผักก็หรูแล้ว

ลูกไปเอาเงินที่ไหนมาซื้อเนื้อเนี่ย? ตอนกินข้าว หญิงชรามองที่ผมลูก ปิ่นปักผมบนหัวแกหายไปแล้ว แกน้ำตาคลอ อาซิ่วนึกว่าแม่เป็นห่วงเธอ ก็เลยกุมมือแม่แล้วว่า  “แม่ สามีหนูดีกับหนูมาก แม้ว่าจะลำบากไปบ้างแต่ก็ทนได้ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง สามีหนูยังบอกอีกว่ารอปีหน้าให้บ้านเราฐานะดีขึ้นมาหน่อยแล้วไปรับแม่มาอยู่ด้วยกัน”

หญิงชราน้ำตาไหลพราก หยิบปิ่นปักผมทองออกมา จากนั้นประคองลูกไว้ในอกเหมือนตอนเล็กๆ ก่อนจะเอาปิ่นปักผมปักให้

แกว่า “ลูกรัก นี่เป็นของชิ้นสุดท้ายที่แม่จะให้หนูได้ ตอนเราลำบากมากมายแม่ก็ยังเสียดายขายไม่ลง เพราะมันเป็นเหมือนเครื่องราง แค่มีมันไม่ว่าลำบากแค่ไหนก็จะผ่านไปได้”

จากนั้นไม่นาน หญิงชราก็จากไป หลังจากนั้นอาจวนและอาอิงก็ทะเลาะตบตีแย่งชิงบ้านหลังเล็กๆ ที่หญิงชราทิ้งไว้อย่างรุนแรงจนถึงขั้นไม่เผาผีกัน ในขณะที่อาซิ่วไม่เข้าไปร่วมวงด้วย เธอกับสามีพยายามทำงานก่อร่างสร้างตัว จนมีลูก ลูกโตจนมีธุรกิจของตัวเอง ปิ่นปักผมทองอันนั้นก็ยังปักอยู่บนผมเธอตั้งแต่ผมดำ จนขาว ทั้งแต่สาวๆ จนกลายเป็นคุณยาย เธอรำลึกเสมอว่า เพราะมีมัน ไม่มีความลำบากใดๆ ที่ผ่านไปไม่ได้


CR:https://www.siamnews.com/view-6725.html

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images