เมื่อเวลา 06.10 น. วันที่ 31 พ.ค. พ.ต.ท.ลาภ คำพันธ์ สวส.สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งพบศพคนผูกคอตาย บริเวณหมู่ที่ 14 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพะโต๊ะ สมาคมพุทธประทีปหลังสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบนภูเขาสูงเส้นทางทุรกันดาร ห่างจากถนนสายหลังสวน-ระนอง ลึกขึ้นไปบนภูเขา 16 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลูกรังและต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่าเป็นสวนทุเรียน ติดกับน้ำตกคลองรัง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยที่สุดของอ.พะโต๊ะ ภายในสวนบนยอดต้นทุเรียนมีร่างของนายประเสริฐ จินาอ่อน อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 หมู่ที่ 14 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เจ้าของสวนทุเรียน แขวนคอตายกับกิ่งทุเรียนต้นที่ไกลที่สุดของสวน ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบบาดแผลอื่นใด ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการผูกคอตาย


สอบสวน คนในครอบครัวของนายประเสริฐ ให้การว่า นายประเสริฐหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 29 พ.ค. หลังจากกลับจากไปส่งลูกสาว 2 คน ที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อายุ 15 ปี และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อายุ 18 ปี

สอบถามลูกสาวนายประเสริฐ กล่าวว่า พ่อพูดเป็นลางว่ารักลูกทั้ง 2 คนมาก จะไม่หนีลูกไปไหน จะอยู่ข้างๆ ลูกตลอดไป จนกระทั่งเย็นของวันจันทร์พ่อก็ไม่กลับเข้าบ้าน เช้าวันอังคารจึงบอกเพื่อนบ้านให้ออกตามหาในจุดต่างๆ ที่นายประเสริฐชอบไป แต่ก็ไม่เจอจนกระทั่งในช่วงดึกของวันนี้มีคนไปพบว่านายประเสริฐ แขวนคอตายบนต้นทุเรียนที่ท้ายสวน จึงแจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยพะโต๊ะให้มานำศพลงมา

ส่วนสาเหตุคนใกล้ชิด เปิดเผยว่า “นายประเสริฐเป็นชาวสวนทุเรียนที่ขยัน ลงทุนสร้างสวนทุเรียนไว้หลายสิบไร่ ยิ่งเมื่อทุเรียนหมอนทองมีราคาดีมาก นายประเสริฐจึงไปกู้เงินจากธกส.เพื่อมาลงทุน ปลูกทุเรียนเพิ่มอีกหลายแสนบาท ในช่วงทุเรียนกำลังออกดอกและลูกอ่อน ปรากฏว่าทุเรียนในสวนออกลูกอ่อนจำนวนมาก จนนายประเสริฐมีความหวังว่าจะสามารถปลดหนี้ธกส.ได้ แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ ทำให้ลูกอ่อนของทุเรียนร่วงเกือบทั้งหมด ทำให้ฝันของนายประเสริฐที่จะปลดหนี้ธกส.ต้องสลายลงไป จนกระทั่งนายประเสริฐมีอาการเครียดและคิดมาก แต่ไม่บ่นอะไรให้คนในครอบครัวได้ฟัง เอาแต่สวมกอดลูกบ่อยครั้ง จนกระทั่งหายไปและมาพบว่าแขวนคอตาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า นายประเสริฐคงเครียดจากเรื่องหนี้สิน เนื่องจากฝนตกหนักทำให้ทุเรียนร่วงและปลดหนี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจลาโลกหนีปัญหาไปตามลำพัง ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของลูกสาวทั้ง 2 คนที่กำลังอยู่ในวัยเรียนว่า “ไหนว่าจะอยู่กับลูก” เป็นที่น่าหดหู่แก่ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก
Cr:http://www.siamdrama.com/view-8221.html