Hot news
หนุ่มใหญ่ทำงานขับรถส่งของ ก่อนถูกตร.จับไม่ทันตั้งตัว ก่อนรู้ประวัติสุดอึ้ง ข้อหาร้ายแรงขนาดนี้ รอดมาได้ไงตั้ง 10ปี!
6:06 AMเมื่อวันที่ 22 ก.ย. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับการประสานงานจาก สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า นายวัฒนา หล้าพรหม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.5 ต.เชียงสือ อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 832/2549 ลงวันที่ 19 ก.ย.49 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ย.60 ที่บ้านพัก รปภ.ใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ล่าสุดมีข้อมูลจากชุดสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.ทรงเกียรติ ขันธ์เขต รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.ต.สุนทร ชุดชนบท และกำลังจำนวนหนึ่งเข้าสืบสวนจับกุม กระทั่งพบหลักฐานจากสำนักงานประกันสังคมว่า ผู้ต้องหาเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ต่อมาชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบติดตามหาตัวผู้ต้องหาและพบบุคคลชื่อนายวัฒนา หล้าพรหม อายุ 59 ปี ชื่อเดียวกันในหมายจับ จึงแสดงหมายจับให้ดูแต่เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ว่าไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.เอ นามสมมติ อายุ 22 ปี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานคำให้การของพยานและการหลบหนีให้ดู จึงจำนนต่อหลักฐานและให้การรับสารภาพ จึงนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดี
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เดิมเป็นชาวจ.สกลนคร และไปทำงานเป็นรปภ.อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ช่วงนั้นยังไม่ได้แยกทางกับภรรยา ต่อมาได้รู้จักกับน.ส.เอซึ่งเป็นชาวจ.สกลนครคนบ้านเดียวกัน เดินทางมาทำงานอยู่โรงงานบะหมี่ในจ.ชลบุรี โดยที่อายุขณะนั้นประมาณ 48-49 ปี น.ส.เออายุ 20 กว่าปี อ่อนกว่า 20 กว่าปีหรือเป็นสาวรุ่นลูก หลังคบหากันพักใหญ่ก็แอบคบกันแบบชู้สาวหรือเป็นกิ๊ก โดยฝ่ายหญิง จะแวะเวียนมาหาที่ห้องพักของตนเองเป็นประจำ เมื่อตนได้เงินมาก็จะแอบให้น.ส.เอเก็บสะสมไว้ใช้จ่ายเป็นจำนวนกว่าแสนบาท และใช้จ่ายจนเหลือประมาณ 5-6 หมื่นบาท ระยะหลังมีเรื่องระหองระแหงกันตลอด เมื่อน.ส.เอตีตัวออกห่าง มีผู้ชายคนใหม่มาติดพัน
นายวัฒนา ให้การต่อว่า วันเกิดเหตุประมาณวันที่ 13 ก.ย.49 ขณะที่กำลังพูดคุยกันในห้องพักของตนเอง ก็มีปากเสียงกันรุนแรง เนื่องจากตนพยายามจะขอเงินคืนจำนวน 5-6 หมื่นบาทคืน หากจะต้องเลิกราจากกัน แต่กลับถูกน.ส.เอด่าด้วยคำหยาบคาย รุนแรง ถึงพ่อแม่ บรรพบุรุษ จึงบันดาลโทสะคว้ำเอาสากกะเบือตำน้ำพริก ตีไปที่ศีรษะ และลำตัวหลายครั้ง จึงเกิดการต่อสู้กัน แล้วก็จับเอาหัวกดน้ำในอ่างน้ำในห้องจนน.ส.เอแน่นิ่ง เมื่อรู้ว่าน.ส.เอเสียชีวิต จึงหลบหนีออกจากห้องพัก ไปทำงานตามต่างจังหวัด ไม่กล้ากลับไปบ้านที่จ.สกลนคร เพราะกลัวตำรวจตามจับ กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ไปทำงานที่ จ.หนองคาย และล่าสุดมาทำงานขับรถที่จ.อุดรธานี จนถูกจับได้ดังกล่าว
จากนั้น จึงประสานงานไปยัง สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้มารับตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป
CR:https://www.siamnews.com/view-7015.html
0 comments