Hot news
หลายคนยังไม่รู้!! เปิดตัว หมอเมย์ คุณหมอนักวิ่ง แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ผู้ดูแล ตูน บอดี้สแลม ทำตามเป้าหมาย!!
6:36 AMวันที่ 1 พ.ย. เวลา 06.00 น. นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม พร้อมด้วยแฟนสาว ก้อย รัชวิน นักแสดงนางเอกสาว แพนเค้ก เขมนิจ ตลอดไปจนถึง เมธี นักร้องนำวงลาบานูน และทีมงาน ได้ออกวิ่งภายใต้โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว โดยเริ่มต้นจาก อ.เบตง จ.ยะลา และสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ซึ่งจะวิ่งติดต่อกัน 4 วันพัก 1 วัน และจะสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกครื้นโดยตลอดเส้นทางนั้นชาวบ้านได้ให้กำลังใจและการต้อนรับตูน บอดี้สแลม บ้างก็ได้ร้องเพลงความเชื่อของบอดี้สแลมเพื่อเป็นกำลังใจให้ งานนี้เรียกได้ว่าหนุ่มตูนของเรานั้นได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามเลยทีเดียว สามารถติดตามการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก ก้าว สำหรับเส้นทางการวิ่งในวันนี้ เวลา 06.00 ป้ายใต้สุดแดนสยาม (อ.เบตง จ.ยะลา) เวลา 08.00 บ้านคุณสนั่น เวลา 10.00 วัดพุทธมงคล เวลา 14.00 บ้านผู้ใหญ่บ้าน กม.40 เวลา 17.00 สะพานโต๊ะกูแซ(ฆอแย) ต.แม่หวาด ยะลา สำหรับเงินทั้งหมดที่ได้จากการรับบริจาคในครั้งนี้จะนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล ได้แก่ 1. โรงพยาบาลยะลา
2. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
3. โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
4. โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี
5. โรงพยาบาลสระบุรี,
6. โรงพยาบาลขอนแก่น
7. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี
8. โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่
9. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
10. โรงพยาบาลน่าน ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์ แต่อยู่ในพื้นที่พิเศษห่างไกลจากตัวเมือง
11. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
โดยยอดบริจาคล่าสุด ได้ทั้งหมด 40,140,752.83 (ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น)
โดยโครงการก้าวคนละก้าวไม่ได้มีแค่ตูน บอดี้สแลมเท่านั้น ที่เป็นแกนนำ แต่ยังมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นทีมงาน หน่วยแพทย์ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ หรือหมอเมย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู โดยหมอเมย์มีหน้าที่ดูแลโปรแกรมการวิ่ง การเช็คร่างกายก่อนวิ่ง การใช้พลังงาน การกิน รวมถึงการบาดเจ็บ กายภาพบำบัด ฟื้นฟูกล้ามเนื้อของนักวิ่งตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ร่วมวิ่งกับตูนอีกด้วย ซึ่งจากเดิมที่เป็นคนชอบวิ่งอยู่แล้ว หมอเมย์ ได้เปิดเผยกับ siamdiscovery ตอนหนึ่งว่า 15 ปีที่ผ่านมาเป็นคนชอบเข้ายิม โยคะ ออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนให้ความสนใจกับการวิ่งแบบจริงจัง แต่ด้วยความที่เป็นหมอเวชศาสตร์ฟื้นฟูตั้งแต่แรก งานหลักๆคือการรักษาคนไข้เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ โรคออฟฟิศซินโดรม ทำกายภาพบำบัดต่างๆ พอได้เริ่มมาวิ่ง ก็เริ่มรู้ถึงปัญหา เข้าถึงอาการที่นักวิ่งประสบพบเจอแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี แล้วเรามีองค์ความรู้เกี่ยวกับเวชศาสตร์ฟื้นฟูก็เริ่มเอามาใช้กับตัวเองก่อน แล้วก็เอามารักษาคนไข้ได้อย่างเข้าใจ วินิจฉัยได้ตรงมากขึ้น ซึ่งตอนนี้จากคนไข้ทั้งหมด กว่า 80% เป็นผู้ที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง
นี่คือสิ่งที่เราสามารถผสมผสานระหว่างความชอบในกิจกรรมส่วนตัวและการทำงานไปได้อย่างสนุก เพราะเราใช้ประสบการณ์การยืดเหยียด เทคนิคการออกกำลังมารักษาคนไข้ได้”
นอกจากนี้หมอเมย์ยังมีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “Goodhealth สุขภาพดีอย่างมีกึ๋น” ซึ่งเป็นแหล่งแชร์เคล็ดลับต่างๆของนักวิ่งหรือผู้สนใจสุขภาพ
CR:https://www.siamnews.com/view-9154.html
0 comments