เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่วัดสายไหม นายวินรวีร์ หรือชื่อเดิม ฌานิศ หรือต๊ะ บอยสเก๊าท์ ใหญ่เสมอ เดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมศพ “โจ บอยสเกาท์” ที่หัวใจวายฉับพลันระหว่างแสดงมินิคอนเสิร์ตอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งเมื่อช่วงดึกที่วันที่ 11 พ.ย.ผ่านมา


โดยต๊ะ บอยสเก๊าท์ร่ำไห้เผยว่า ตอนนี้ยังไม่โอเค เพราะยังทำใจไม่ได้ที่เพื่อนรักคบกันมา 28 ปีต้องจากไป ทำให้เครียดและไม่ได้นอน โดยวันเกิดเหตุโจมีอาการเกร็งและล้มลง ตนจึงเอามือดึง ตอนนั้นไม่กล้าทำซีพีอาร์ เพราะเคยเตะบอลการกุศลและมีผู้ใหญ่มีอาการเดียวกันกับโจ ก่อนได้ช่วยทำซีพีอาร์และผู้ใหญ่คนนั้นไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงทำให้ไม่กล้าทำซีพีอาร์ช่วยโจ แต่มีคนในร้านตะโกนบอกเป็นหมอ จึงฝากความหวังไว้ ซึ่งที่ผ่านมาโจเหมืนอจะดูไม่แข็งแรง แต่ไม่เคยไม่สบาย จะมีก็แต่โรคกระเพาะเท่านั้น

ต๊ะกล่าวอีกว่า ความจริงก่อนนี้เคยชวนโจมาออกกำลังกาย จากนี้ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพราะทุกอย่างไวมาก เวลาไม่ถึง 4-5 นาที ถ้าเราทำอะไรได้ เราคงไม่สูญเสีย ที่ผ่านมาโจมักบ่นว่าห่วงพ่อ เพราะเขาไม่ใกล้ชิดพ่อ แม่และพี่ชายก็เสียชีวิตไปแล้ว เพราะเขาดูแลพ่อไม่ได้ตามที่เขาต้องการ ซึ่งจากนี้จะคุยกับเพื่อนว่าจะช่วยได้แค่ไหน โดยโจเคยบอกอยากซื้อนาฬิกราโด้ให้พ่อ

“โจเคยเล่าให้ฟัง เคยมีแฟนและมีลูกกันก่อนเข้าวงการ โดยล่าสุดโจยังเล่าว่าไม่นานมานี้ยังไปกินข้าวด้วยกันมา ซึ่งไอซ์น่าจะใช่ลูกจริงๆ แต่ส่วนตัวยังไม่เคยเจอกัน”

ต๊ะกล่าวอีกว่า วันเกิดเหตุตอนนั้นโจอาการโคม่ามากเป็นตายเท่ากัน จึงได้พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อน ก่อนมีคนทักว่าโจมีลูกชาย จึงได้โทร.ไปบอกลูกชายของโจ เพื่อให้มาดูพ่อที่โรงพยาบาลและตัดสินใจการรักษา ที่ต้องให้ญาติตัดสินใจ แต่เมื่อโทร.ไป ไอซ์บอกว่าไม่สะดวก มีอาการเย็นชาและไม่ตอบรับกับการบอกให้มาดูพ่อที่โคม่า บอกแค่ว่าไม่ว่างจนถึงวันอาทิตย์ และตอนนี้พักอยู่แถวม.ธุรกิจบัณฑิต ซึ่งจังหวะนั้นน้องอาจยังไม่กลั้นกรอง และอาจไม่มีความสนิทกับพ่อ เพราะไม่ได้เลี้ยงมา แต่เราไม่ได้โทษ เพราะความจริงก็คือหลานและลูกของโจ โดยยอมรับว่าเป็นหลาน แต่ขออย่าทำให้โจเสื่อมเสียหรือแย่ลง

CR:https://www.siamnews.com/view-9695.html