สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งว่าพบศพหญิงสาวนิรนาม อายุประมาณ 14-17 ปี ถูกฆาตกรรม โดยคนร้ายนำผ้าห่มห่อมัดร่างกับกระสอบปุ๋ย แล้วนำไปถ่วงน้ำ จนศพลอยอืดมาติดกองผักตบชวาในคลองสำโรง ถนนเทพารักษ์ กม.22 ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะถูกฆ่ามาจากที่อื่น ก่อนที่จะโยนศพลงคลองอำพรางคดีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่สอบสวนจนทราบเบาะแสว่า ผู้ลงมือก่อเหตุคือพ่อเลี้ยง และแม่แท้ๆ ของเด็ก

โดยสามีชื่อนายจรัญ เป็นคนจ.สระบุรี ส่วนภรรยาชื่อนางสุภาพร เป็นคนจ.ร้อยเอ็ด มีอาชีพเป็นแม่บ้านโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมย่านสมุทรปราการ โดยทั้งคู่เช่าบ้านมาแล้ว 2 ปี จนเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้รับลูกสาวมาอยู่ด้วยชื่อ "น้องรุ้ง" อายุ 10 ปี เป็นลูกเลี้ยงติดแม่ รวมเป็นทั้งหมดอยู่กันในห้อง 4 คน โดยพ่อเลี้ยงนั้นเป็นคนอารมณ์ร้าย มักจะตบตีลูกเลี้ยงอยู่เป็นประจำ กระทั่งวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันพบศพทั้งคู่ได้ย้ายหนีออกจากห้องเช่าไป แต่คนในละแวกใกล้เคียงไม่เห็นน้องรุ้งย้ายไปด้วย พอถามก็อ้างว่าน้องรุ้งมีญาติรับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดแล้ว ซึ่งพยานมั่นใจว่าศพที่พบคือน้องรุ้ง เนื่องจากพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงและแม่มีพิรุธ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานและหลักฐานครบ จึงทำการจับกุมตัวทั้งคู่ โดยพ่อเลี้ยงและแม่สารภาพว่าได้ร่วมกัน ทุบตี ทำร้ายน้องรุ้ง และขังให้อยู่ในห้องเช่า จนเสียชีวิต จึงได้นำศพมาถ่วงน้ำ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดคุณยายของ "น้องรุ้ง" ทราบข่าวการจากไปของหลาน ก็เสียใจมาก ไม่คิดว่าการส่งหลานไปหาแม่ จะเป็นการส่งหลานไปตาย โดยคุณยายเล่าว่า แม่ของน้องรุ้งมารับไปอยู่ด้วยตั้งแต่ปิดเทอม โดยแม่มาคนเดียวบอกว่าจะมารับลูกไปเที่ยว และจะให้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ จากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้ "โทรศัพท์ไปลูกสาวก็ไม่รับ มาทราบข่าวอีกครั้ง ก็เมื่อน้าของผู้ตายแจ้งมาว่าน้องรุ้งเสียชีวิตแล้ว ครอบครัวเรายากจน ตายายรับจ้าง ไม่มีที่ดินทำกินของตนเอง เมื่อก่อนอาศัยในแพหาปลา พอหลานมาอยู่ด้วยจึงมาเช่าที่คนอื่นสร้างเพิงที่พักอาศัยอยู่ ตอนเย็นโรงเรียนเลิก ครูและนักเรียนที่เป็นเพื่อช่วยกันรวบรวมอาหารกลางวันให้กลับไปกินที่บ้านทุกวันเพราะหาได้ไม่พอกิน เมื่อรู้ข่าวทางโรงเรียนพยายามหาทางช่วยเหลือ เบื้องต้นได้รวบรวมเงินของครูทุกคนมอบให้ จำนวน 1,800 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทางไปรับศพน้องรุ้งกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน"

ซึ่งบรรยากาศบ้านของน้องรุ้งที่จ.ร้อยเอ็ด เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทุกคนอยู่ในอาการเศร้าสลด ด้านคุณยายบอกว่า ไม่คิดว่าลูกสาวจะฆ่าหลาน ไม่คิดว่าการที่แม่มารับไปอ้างว่าจะพาไปเที่ยวแล้วจะส่งกลับมา ทำให้เป็นการจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกันอีก หลานสาวเป็นเด็กดี ค่อนข้างจะเก็บตัวเงียบ ไม่มีปัญหากับใคร ช่วยงานตายาย ยามว่างไปรับจ้างทำงาน ส่วนตายายหากินด้วยการเก็บหอยมาต้มขายรายได้วันละ 200-300 เพื่อดูแลหลาน 2 คน คือน้องรุ้ง และหลานสาวที่เป็นลูกของลูกสาวคนเล็กที่มาฝากไว้



นอกจากนี้คุณยายยังบอกอีกว่า "จะไม่ยอมอภัย ขอให้คนที่ทำได้รับรับกรรมที่ทำกับหลานสาว ถึงแม้ว่าแม่แท้ๆ จะร่วมมือด้วยก็ตาม ตอนนี้รอเพียงทางการอนุญาตให้ไปรับศพกลับมาบ้าน ถึงจะไม่มีเงินก็จะพยายามหาเงินมาจัดงานศพให้หลาน ต้องหยิบยืมก็จะจัดงานให้ "

Cr:http://www.siamdrama.com/view-8805.html